อัพเดท
12 มีนาคม 2562
Apple ประกาศขยายโครงการเขียนโค้ดในสิงคโปร์และอินโดนีเซีย
หลักสูตรการพัฒนาแอพด้วย Swift ขยายใหญ่ขึ้นในสิงคโปร์
Apple Developer Academy แห่งที่สองเปิดแล้วในอินโดนีเซีย
วันนี้ Apple ได้ต่อยอดความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการเขียนโค้ดและการศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเพิ่มหลักสูตรการพัฒนาแอพด้วย Swift ในโรงเรียนพันธมิตรหลายแห่งในสิงคโปร์ และเปิด Apple Developer Academy แห่งที่สองในสุราบายา อินโดนีเซีย เพื่อถ่ายทอดทักษะที่จำเป็นต่อการแข่งขันในตลาดแอพยุคปัจจุบันให้กับนักพัฒนารุ่นใหม่
สิงคโปร์: หลักสูตรการพัฒนาแอพด้วย Swift เปิดสอนใน SUTD, RMIT Online และโรงเรียน Pathlight แล้ว
Singapore University of Technology and Design และ RMIT Online ได้เปิดตัวคอร์สเรียนพัฒนาแอพสำหรับผู้เรียนวัยผู้ใหญ่โดยใช้หลักสูตรการพัฒนาแอพด้วย Swift ของ Apple และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน SkillsFuture Singapore ของรัฐบาลสิงคโปร์ โรงเรียน Pathlight ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีอาการออทิซึมแห่งแรกในสิงคโปร์ก็จะเปิดสอนหลักสูตร Swift Accelerator สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาเช่นกัน โรงเรียนจะใช้หลักสูตร Swift Accelerator เหมือนกับที่ใช้ในโรงเรียนทั่วไป และได้รับการสนับสนุนโดย Info-communications Media Development Authority (IMDA) ของสิงคโปร์
"ที่ Apple เราเชื่อว่าการศึกษาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้" Lisa Jackson รองประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อม นโยบาย และโครงการริเริ่มทางสังคมของ Apple กล่าว "เราดีใจที่นักเรียนทุกช่วงวัยในสิงคโปร์จะได้เรียนรู้ภาษาในการเขียนโค้ด รวมถึงฝึกฝนทักษะที่จำเป็นที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโตและประสบความสำเร็จในธุรกิจการสร้างแอพและอีกมากมาย"
การใช้หลักสูตรการพัฒนาแอพด้วย Swift ของ Apple ซึ่งรวมถึง AR Module ทำให้ Singapore University of Technology and Design และ SkillsFuture Singapore สามารถออกแบบคอร์สใหม่ที่มุ่งเน้นไปยังผู้เรียนวัยผู้ใหญ่ที่สนใจเรื่องการออกแบบและการพัฒนาแอพเบื้องต้นได้ คอร์สใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงานที่ต้องการเรียนรู้ทักษะใหม่เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจซอฟต์แวร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
"SUTD มุ่งหวังที่จะได้ทำงานร่วมกับ Apple อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อช่วยให้ผู้ใหญ่วัยทำงานยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอลซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสในการทำงานของพวกเขาได้" ศาสตราจารย์ Chong Tow Chong อธิการบดีและรักษาการรองอธิการฝ่ายวิชาการประจำ Singapore University of Technology and Design กล่าว
นอกจากนี้ RMIT Online ยังเพิ่มคอร์สยอดนิยมอย่างการพัฒนาแอพ iOS ด้วย Swift ที่สิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นการเปิดสอนหลักสูตรออนไลน์ตั้งแต่ต้นจบจบ และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนวัยทำงานสามารถกำหนดเวลาเรียนเขียนโค้ดของตนเองได้
"เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำโครงการนี้ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และชุมชนการเรียนรู้แบบไดนามิกของเราไปสู่ผู้เรียนชาวสิงคโปร์" Helen Souness, CEO ของ RMIT Online กล่าว "สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนเขียนโค้ด Swift ถือว่าเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย แม้จะไม่ใช่โปรแกรมเมอร์"
โรงเรียน Pathlight จะเปิดสอนหลักสูตร Swift Accelerator สำหรับนักเรียนอายุ 13-18 ปี โดยหลักสูตรจะมีระยะเวลา 144 ชั่วโมงและสอนโดยผู้ฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองจาก Apple
"การทำงานร่วมกันระหว่าง Pathlight และ Apple ผ่านโครงการ Swift Accelerator ช่วยส่งสัญญาณให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการฝึกฝนเด็กนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษให้พร้อมสำหรับอนาคตและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" Denise Phua Lay Peng ประธานของ Autism Resource Centre และผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียน Pathlight กล่าว "สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือการได้เห็นว่าคนๆ หนึ่งที่มีภาวะออทิซึมมีความสนใจและมีความสามารถในการเรียนรู้ด้านไอทีมาแต่กำเนิด ฉันดีใจมากๆ ที่ Apple ใส่ใจและลงมือทำเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ"
อินโดนีเซีย: Apple แสดงความชื่นชมและเพิ่มโอกาสให้กับนักพัฒนารุ่นใหม่
นักเรียนรุ่นแรกจบการศึกษาจาก Developer Academy ของ Apple ในจาการ์ตาเรียบร้อยแล้ว และในพิธีจบการศึกษาก็มี Lisa Jackson จาก Apple และ Airlangga Hartart รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย ไปร่วมเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาด้วย
"ดิฉันรู้สึกมีแรงบันดาลใจเสมอเวลาได้เห็นนักเรียนใช้เทคโนโลยีของเราในการรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่พวกเขามองเห็นอยู่รอบตัว" Jackson กล่าว "นักเรียนที่ Developer Academy ของเราในจาการ์ตาแสดงออกถึงการมีทักษะที่สำคัญและแนวคิดอันแรงกล้า ซึ่งเป็นสิ่งที่จะพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จท่ามกลางการแข่งขันในตลาดแอพที่กำลังเติบโต ดิฉันขอแสดงความยินดีจากใจจริงแก่นักเรียนทุกคนที่จบการศึกษาในวันนี้"
ในปีนี้ Apple สร้างการเติบโตให้กับ Developer Academy ในอินโดนีเซียด้วยการเปิดสถาบันแห่งที่สองในสุราบายาและเพิ่มจำนวนนักเรียนที่สาขาจาร์กาตาจาก 75 คนเป็น 200 คน
App Store มีให้ใช้งานใน 155 ประเทศแล้ววันนี้ สร้างอุตสาหกรรมใหม่สำหรับอาชีพและเพิ่มโอกาสให้ผู้คนอีกมากมาย นับตั้งแต่การเปิดตัว App Store ในปี 2008 Apple ได้จ่ายเงินให้นักพัฒนาทั่วโลกไปแล้วกว่า $120 ล้านเหรียญสหรัฐ และนั่นทำให้ App Store เป็นตลาดซอฟต์แวร์ที่คึกคักที่สุดในโลก
รูปภาพของ Apple Developer Academy